Dark Harvest ภาพยนตร์สยองขวัญแฟนตาซีสัญชาติอเมริกันที่กำกับโดย David Slade อ้างอิงจากเรื่องราวในของเวอร์ชั่นแรกในปี 2006 ที่นำกลับมารีเมคใหม่อีกครั้งได้อย่างน่าสนใจ นำแสดงโดย Casey Likes, E’myri Crutchfield, Dustin Ceithamer, Elizabeth Reaser และ Jeremy Davies เล่าเรื่องราวของเมืองเล็กๆ ในรัฐอินเดียนา ในช่วงเทศกาลฮาโลวีน ในแต่ละปีจะมีตำนานเล่าขานกันว่าจะมีปีศาจหัวฟักทองที่ชื่อว่า วอว์ทูธแจ็ค ออกมาล่าเหยื่อเป็นเด็กวัยรุ่น เด็กวัยรุ่นในท้องถิ่นจึงถือโอกาสนี้ออกล่าปีศาจหัวฟักทองเพื่อเป็นการพิสูจน์ความกล้าหาญ
สำหรับเวอร์ชั่นนี้ เรื่องราวของภาพยนตร์จะโฟกัสไปที่กลุ่มเด็กวัยรุ่น 4 คน ได้แก่ โทบี้ (แสดงโดย Casey Likes), เจสซี่ (แสดงโดย E’myri Crutchfield), จอห์น (แสดงโดย Dustin Ceithamer) และ บิลลี่ (แสดงโดย Jeremy Davies) โทบี้เป็นเด็กหนุ่มผู้โดดเดี่ยวที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นฮีโร่ เจสซี่ เด็กสาวที่กล้าหาญและมั่นใจในตัวเอง และจอห์น เด็กหนุ่มที่จิตใจดีและอ่อนโยน และบิลลี่เป็นเด็กหนุ่มที่อารมณ์ร้อนและชอบความรุนแรง
ในวันฮาโลวีน โทบี้ เจสซี่ จอห์น และบิลลี่ ตัดสินใจออกล่าปีศาจหัวฟักทองตามตำนาน จนพวกเขาได้พบกับปีศาจหัวฟักทองตัวจริง และก็เพิ่งมารู้ว่าของจริงนั้นแตกต่างจากที่พวกเขาเคยจินตนาการไว้ ปีศาจหัวฟักทองตัวจริงโหดร้ายกว่าที่คิด พวกเขาจึงต้องร่วมมือกันเพื่อเอาชีวิตรอดจากปีศาจหัวฟักทอง ระหว่างเดียวกันนั้น โทบี้ได้ค้นพบความจริงบางอย่างเกี่ยวกับตำนานของปีศาจหัวฟักทองที่ว่ามันไม่ได้เป็นเพียงตำนาน แต่มันคือสิ่งมีชีวิตที่แท้จริงที่มีจุดประสงค์บางอย่างในการกลับมาครั้งนี้
นี่คือภาพยนตร์สยองขวัญแฟนตาซีที่ผสมผสานระหว่างตำนานพื้นบ้านเข้ากับเรื่องราวการล่าปีศาจได้อย่างลงตัว มีจุดเด่นอยู่ที่การนำเสนอเรื่องราวที่ชวนติดตามและน่าตื่นเต้นผ่านตัวละครหลักอย่างเด็กวัยรุ่นทั้ง 4 คน ด้านงานโปรดักชันก็มีงานสร้างที่ค่อนข้างดี ฉากต่างๆ ในเรื่องมีความสมจริงและน่ากลัว เทคนิคพิเศษต่างๆ ก็ถูกใช้อย่างเหมาะสม ช่วยให้ได้บรรยากาศที่ชวนหลอนเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
เรียกได้ว่านี่คือหนังฉบับรีเมคของเมื่อปี 2006 ที่ถือว่ามีเค้าโครงต้นฉบับอย่างดี และเพิ่มความสมจริงน่ากลัวยิ่งขึ้น เติมงานซีจีและการเซ็ตฉากต่างๆ ให้ดูมีมิติที่เหมือนจริงกว่าเดิม ซึ่งพล็อตและการดำเนินเรื่องก็ยังดีเหมือนเดิมเพราะเวอร์ชั่นแรกได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญที่ดีที่สุดของปีนั้นอีกด้วย แถมยังได้ผู้กำกับฝีมือดีที่หลายคนอาจไม่รู้ว่าเขามีผลงานกำกับเรื่องดังอย่าง 30 Days of Night (2007), Hard Candy (2005) และ Hannibal (2013) กันมาแล้ว จึงการันตีความหลอนสยองขวัญจัดเต็มแน่นอน